วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความเป็นมา
     วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา เป็นการทำสงครามระหว่างพม่ากับมอญ เดิม
ต้นฉบับเป็นภาษามอญ แต่เนื่องจากเนื้อเรื่องมีความสนุกน่าสนใจ ให้ข้อคิดมากมายจึงได้มีนักปราชญ์
ชาวไทยแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย ตั้งแต่ก่อนเสียกรุงเสียอยุธยาครั้งสุดท้าย ภายหลังสมเด็จ
เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 1 ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แปลและ
เรียบเรียงให้เรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์อีกครั้ง
 

      ผู้เรียบเรียง

     เจ้าพระยาพระคลัง (หน)

 

      ประวัติและผลงาน
     เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เคยรับราชการเป็นหลวงสรวิชิต แล้วไปเป็นนายด่านเมืองอุทัยธานี ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ต่อ
มาในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพระยาพิพัฒน์โกษา และเป็นเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
ผลงานที่สำคัญของท่านได้แก่ ราชาธิราช สามก๊ก ร่ายยาวมห่เวสสันดรชาดก (กัณฑ์กุมาร และ
กัณฑ์มัทรี) บทมโหรีเรื่องกากี ลิลิตเพชรมงกุฎ และอิเหนาคำฉันท์
ท่านถึงแก่ อสัญกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2348

 
     ลักษณะคำประพันธ์
    เป็นวรรณคดีร้อยแก้วแนวนิทานอิงประวัติศาสตร์

     จุดประสงค์ในการแต่ง
     รัชกาลที่ 1 มีพระราชประสงค์ที่จะใช้วรรณคดีเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์ และพระบรมวงศานุวศ์
ข้าทูลละอองธุลีพระบาท จะได้จดจำไว้เป็นคติบำรุงสติปัญญา

   
     เนื้อเรื่องย่อ
    พระเจ้ากรุงต้าฉิงแห่งประเทศจีน ยกทัพมาล้อมกรุงอังวะ ต้องการให้พระเจ้ามณเฑียรทอง ออกไป
ถวายบังคม และขอให้ส่งทหารออกมาขี่ม้ารำทวนต่อสู้กันตัวต่อตัวกับกามะนีทหารเอกของเมืองจีน
ถ้าฝ่ายกรุงรัตนบุระอังวะแพ้ต้องยกเมืองให้ฝ่ายจีน แต่ถ้าฝ่ายจีนแ้พ้จะยกทัพกลับทันทีพระเจ้ากรุงอังวะ
ประกาศหาผู้ที่จะอาสาออกไปรบกับกามะนี ถ้าสามารถรบชนะกามะนีทหารเอกของเมืองจีน
จะโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นพระมหาอุปราชและแบ่งสมบัติให้กึ่งหนึ่ง เมื่อสมิงพระรามทราบ
ข่าว ก็คิดตึกตรองว่า หากจีนชนะศึกครั้งนี้ จีนคงยกทัพไปตีเมืองหงสาวดีของตนต่อไปแน่ ควรคิด
ป้องกันไว้ก่อนจึงอาสาออกรบ แม้แรกๆ จะเกรงว่าการอาสารบนี้จะเป็น "หาบสองบ่า อาสาสองเจ้า"
ก็ตาม โดยขอพระราชทานม้าฝีเม้าดีตัวหนึ่ง และได้เลือกม้าของหญิงม้าย สมิงพระรามนำม้าออกไป
ฝึกหัด ให้รู้จกทำนองรบรับจนคล่องแคล่วสันทัดดี พร้อมทั้งทูลขอ ขอเหล็กและตะกรวยผูกข้างม้า
ในระหว่างการรบ สมิงพระรามเห็นว่า กามะนีมีความชำนาญด้านการรบเพลงทวนมาก และยังสวม
หุ้มเกราะไว้แน่นหนา สมิงพระรามจึงใช้อุบายว่าให้แต่ละฝ่ายแสดงท่ารำให้อีกฝ่ายรำตามก่อนที่จะ
ต่อสู้กัน ทั้งนี้เพื่อจะคอยหาช่องทางที่จะแทงทวนให้ถูกตัวกามะนีได้ เมื่อได้หลอกล่อให้กามะนีรำตาม
ในท่าต่าง ๆ จึงได้ช่องใต้รักแร้กับบริเวณเกราะซ้อนท้ายหมวกที่เปิดออกได้ สมิงพระรามจึงหยุดรำให้
ต่อสู่กันโดยทำทีว่าสู้ไม่ได้ ขับม้าหนีของกามะนีเหนื่อย เมื่อได้ทีก็สอดทวนแทงซอกใต้รักแร้ แล้วฟัน
ย้อนกลีบเกราะตัดศีรษะของกามะนีขาด แล้วเอาขอเหล็กสับใส่ตะกรวยโดยไม่ให้ตกดิน นำมาถวาย
พระเจ้ามณเฑียรทองเมื่อฝ่ายจีนแพ้ พระเจ้ากรุงจีนก็สั่งให้ยกทัพกลับตามสัญญา พระเจ้ามณเฑียรทอง
พระราชทานตำแหน่งมหาอุปราชและพระราชธิดา ให้เป็นบาทบริจาริกาแก่สมิงพระรามตามที่ได้รับสั่งไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น